02-793-8888

02-793-8888

TH

|

EN

All PROMOTIONS

โปรโมชั่นทั้งหมด

NEWS&BLOG

ข่าวสารบทความ

WHY US

ทำไมต้องฮาวเด้นแมกซี่

ABOUT US

รู้จักฮาวเด้นแมกซี่

CONTACT

ติดต่อเรา

TH | EN

จอดรถทิ้งไว้นาน ฝนตกบ่อย กลิ่นแอร์อับแก้ด้วยเคล็ดลับแสนง่าย

จอดรถทิ้งไว้นาน ฝนตกบ่อย กลิ่นแอร์อับแก้ด้วยเคล็ดลับแสนง่าย

สิงหาคม 14, 2564 |
โพสโดย : HOWDENMAXI

 

เมื่อเข้าหน้าฝนหลายคนอาจจะไม่ชอบใจกับฤดูนี้เท่าไหร่ เพราะนอกจากจะทำให้การเดินทางยากลำบากแล้ว ปัญหาเรื่องกลิ่นก็เป็นปัญหาที่กวนใจเป็นอย่างมาก ไม่ว่าจะเป็นกลิ่นอับจากการตากผ้าที่ไม่ค่อยแห้งสนิท กลิ่นอับภายในบ้าน หรือแม้แต่กลิ่นอับภายในรถยนต์ที่ต้องทนนั่งสูดดมไปตลอดทาง

รู้หรือไม่ว่ากลิ่นอับจากแอร์รถยนต์นั้นไม่ได้แย่แค่ความเหม็น แต่ยังส่งผลต่อสุขภาพของเราด้วย หากว่าต้นตอของกลิ่นอับนั้นมาจากเชื้อรา แบคทีเรีย โรคราน้ำค้างในระบบระบายอากาศ ที่ฝังตัวอยู่ในพรม วัสดุบุหลังคา หรือแม้แต่ตัวกรองอากาศในห้องโดยสาร ส่งผลให้เกิดอาการ ไอ จาม ระคายเคืองตา แน่นหน้าอก ดังนั้นเพื่อสุขภาพกายและสุขภาพใจที่ดีในการขับขี่รถยนต์ เรามาดูแลรถยนต์ให้สะอาด บอกลากลิ่นอับและกำจัดเชื้อราบนรถยนต์ของเรากันดีกว่า

 

 

เมื่อรถยนต์เกิดกลิ่นอับ หลายคนคงนึกถึงน้ำหอมปรับอากาศในรถเป็นอย่างแรก แต่ในความเป็นจริงแล้วนั่นเป็นเพียงการแก้ที่ปลายเหตุเท่านั้น ถ้าหากเราต้องการจะแก้ที่ต้นเหตุควรทำตามวิธีต่อไปนี้

 

จอดรถตากแดด หลายคนอาจสงสัยทำไมต้องจอดรถยนต์ตากแดด เพราะการจอดรถตากแดดจะช่วยให้ภายในห้องโดยสารรถยนต์ร้อน ทำให้ความชื้นกระจายตัว และถ้าความชื้นกระจายตัวในรถที่ปิดสนิทก็ไม่ดีกับรถแน่ๆ เราจึงควรจะเปิดกระจกรถเพื่อระบายความชื้นที่กระจายตัวอยู่บนรถให้ออกไป ดังนั้นการจอดรถยนต์ตากแดดในระยะเวลาที่เหมาะสมก็มีประโยชน์กับรถด้วยเหมือนกัน

 

 

ทำความสะอาดภายในรถยนต์ ควรหมั่นทำความสะอาดภายในรถบ่อยๆ เนื่องจากอาจมีสิ่งสกปรกสะสมจากเศษอาหารที่เรานำมารับประทานบนรถ หรือเศษดินในพรมรองพื้นรถยนต์ และเรามักใช้งานระบบแอร์ที่เป็นระบบปิดทำให้อากาศภายในรถหมุนเวียนได้ไม่เพียงพอ ส่งผลให้ภายในรถกลายเป็นแหล่งสะสมเชื้อโรคต่างๆ ดังนั้นเราควรหมั่นทำความสะอาดภายในห้องโดยสารรถยนต์ ทั้งดูดฝุ่นภายในรถยนต์ ล้างพรมรองพื้นรถยนต์ เช็คทำความสะอาดทุกส่วนภายในรถยนต์ หากทำเป็นประจำบ่อยๆ ก็จะทำให้ห้องโดยสารไม่เป็นที่สะสมของเชื้อโรคและไม่มีกลิ่นอับอีกด้วย

 

 

ล้างแอร์ ควรเข้าศูนย์บริการหรือร้านล้างแอร์รถยนต์ โดยปกติเราควรล้างแอร์อย่างน้อยปีละครั้ง หรือทุกๆ ระยะทาง 20,000 กิโลเมตร แต่นอกเหนือจากนั้นให้สังเกตความผิดปกติของแอร์ด้วย เช่น แอร์ไม่เย็น แอร์มีกลิ่นอับ พัดลมแอร์เบาผิดปกติ ถ้ามีอาการเหล่านี้ไม่ต้องรอให้ครบปีหรือครบระยะทางก็รีบนำรถยนต์ไปล้างแอร์ได้เลย

 

ถ่าน เรามักจะคุ้นเคยกับการเผาถ่านสำหรับทำอาหาร หรือปิ้งย่าง แต่ถ่านยังมีประโยชน์ในการลดกลิ่นอับ เพราะโครงสร้างของถ่านจะมีรูพรุนเล็กๆ โดยเจ้ารูนี้จะช่วยดูดซับสารเคมีที่มีกลิ่นประเภทไฮโดรคาร์บอน และยังมีคุณสมบัติดูดความชื้นในอากาศ ถ้านำถ่านไปไว้ในรถสัก 2-3 ก้อนก็จะช่วยลดกลิ่นอับในห้องโดยสารบนรถยนต์ของเราได้

 

หลังจากที่เราแก้กลิ่นอับจากรถยนต์ของเราไปหมดแล้ว หลายคนคงจะรู้สึกเหมือนรถยนต์เรายังขาดอะไรไป ดังนั้นเราจะขอแนะนำวิธีเพิ่มความหอมภายในรถยนต์ด้วยสารระเหยจากธรรมชาติสักหน่อยนะ

 

ดอกไม้หรือเปลือกผลไม้อบแห้ง การใช้สารระเหยต่างๆ จากธรรมชาติไม่ได้ช่วยแก้ต้นตอกลิ่นอับบนรถ แต่เป็นการเพิ่มความหอมกลบกลิ่นอับได้ชั่วคราว ซึ่งถ้าความหอมจากสารระเหยหมดเมื่อใด เมื่อนั้นกลิ่นอับบนรถก็จะกลับมา ดังนั้นวิธีที่ดีที่สุดจึงควรขจัดกลิ่นอับให้หมดไป แล้วใช้สารระเหยเพื่อปรับอากาศเพิ่มความหอมในห้องโดยสารให้หอมสดชื่น ทำให้ช่วงเวลาเดินทางเป็นช่วงที่มีความสุขมากขึ้น

 

 

เมื่อจบเคล็บลับการบอกลากลิ่น เราก็คงไม่อยากให้กลิ่นไม่พึงประสงค์เหล่านี้กลับมาอีกใช่ไหม มาดูวิธีป้องกัน และวิธีดูแลให้กลิ่นอับไม่ต้องมาทักทายกันอีกดีกว่า

 

หลีกเลี่ยงการทิ้งเสื้อผ้าที่เปียกไว้บนรถ การออกกำลังกายเป็นสิ่งที่ดีต่อสุขภาพ แต่อาจจะนำมาสู่กลิ่นอับและเชื้อราบนรถยนต์ ซึ่งส่งผลไม่ดีกับรถยนต์ของเราอย่างแน่นอน แถมยังส่งผลต่อสุขภาพร่างกายอีกด้วย เพราะว่าเสื้อผ้าที่เปียกจะมีความชื้นอยู่และเมื่อรถมีความร้อนยิ่งทำให้กลิ่นกระจายทั่ว ดังนั้นควรนำเสื้อผ้าไปเปลี่ยนหลังออกกำลังกายจะดีที่สุด และไม่ควรทิ้งเสื้อผ้า ผ้าเช็ดตัว ถุงเท้า รองเท้า ที่เปียกชื้นไว้บนรถ

 

หลีกเลี่ยงการทิ้งอาหารไว้บนรถ อาหารหรือเครื่องดื่มมักจะมีความชื้นอยู่ บางครั้งเราอาจเผลอทำอาหารหรือเครื่องดื่มหกจนซึมเข้าไปในเบาะรองนั่งหรือพรมรองเท้า เมื่ออาหารแห้งและน้ำระเหย ความชื้นในรถของเราจะเพิ่มสูงขึ้นทุกที่ แม้แต่ในที่ที่มองไม่เห็น เช่น ช่องแอร์

 

 

ดูแลรักษาแอร์ ถ้าหากต้องการยืดอายุการใช้งานแอร์ไปนานๆ หรือต้องการลดการเกิดกลิ่นอับในช่องแอร์ ควรหมั่นดูแลรักษาแอร์รถยนต์เป็นประจำ เช่น หากภายในรถยนต์ร้อน ให้เปิดพัดลมแอร์ทิ้งไว้ประมาณ 30 วินาทีเพื่อไล่ลมร้อนแล้วค่อยกดปุ่ม A/C (คอมเพรสเซอร์แอร์) หรือก่อนดับรถยนต์ให้กดปิดปุ่ม A/C โดยเปิดพัดลมแรงสุด ประมาณ 1-2 นาทีเป็นการไล่ความชื้นออกจากช่องแอร์ ในกรณีที่เราจะไม่ได้ใช้งานรถสักพักใหญ่ๆ เช่น การจอดรถทิ้งไว้ที่ทำงานหรือที่บ้าน ควรเปิดกระจกหน้าต่างรถยนต์ทิ้งไว้เล็กน้อยเพื่อไล่ความชื้นภายในห้องโดยสารรถยนต์

 

จากในสถานการณ์ปัจจุบันที่เราต้องเผชิญกับเชื้อโรคและฝุ่นต่างๆ มากมาย รถยนต์ถือเป็นอีกหนึ่งสิ่งสำคัญที่เราควรดูแลรักษาความสะอาดให้ดีไม่แพ้ภายในบ้าน เพราะภายในรถยนต์นั้นเป็นสถานที่ปิด ที่อากาศเดิมๆ จะหมุนเวียนอยู่ในนั้นตลอดเวลาไม่ถ่ายเท ซึ่งถ้าหากมีเชื้อโรคหรือเชื้อราใดๆ เราก็จะสูดหายใจเข้าไปและเป็นอันตรายต่อสุขภาพได้ ฉะนั้นหมั่นดูแลความสะอาดภายในรถยนต์อยู่เสมอ และอย่าลืมเคล็ดลับดีๆ ที่เราบอกไปนะ

 

 

ติดตามข่าวสาร ปรึกษาเรื่องประกันภัย

โทร. 02-793-8888

Line Official:  https://lin.ee/vZ7RQYe

Facebook : https://www.facebook.com/howdenmaxi/

www.howdenmaxi.com

 

เมื่อเข้าหน้าฝนหลายคนอาจจะไม่ชอบใจกับฤดูนี้เท่าไหร่ เพราะนอกจากจะทำให้การเดินทางยากลำบากแล้ว ปัญหาเรื่องกลิ่นก็เป็นปัญหาที่กวนใจเป็นอย่างมาก ไม่ว่าจะเป็นกลิ่นอับจากการตากผ้าที่ไม่ค่อยแห้งสนิท กลิ่นอับภายในบ้าน หรือแม้แต่กลิ่นอับภายในรถยนต์ที่ต้องทนนั่งสูดดมไปตลอดทาง

รู้หรือไม่ว่ากลิ่นอับจากแอร์รถยนต์นั้นไม่ได้แย่แค่ความเหม็น แต่ยังส่งผลต่อสุขภาพของเราด้วย หากว่าต้นตอของกลิ่นอับนั้นมาจากเชื้อรา แบคทีเรีย โรคราน้ำค้างในระบบระบายอากาศ ที่ฝังตัวอยู่ในพรม วัสดุบุหลังคา หรือแม้แต่ตัวกรองอากาศในห้องโดยสาร ส่งผลให้เกิดอาการ ไอ จาม ระคายเคืองตา แน่นหน้าอก ดังนั้นเพื่อสุขภาพกายและสุขภาพใจที่ดีในการขับขี่รถยนต์ เรามาดูแลรถยนต์ให้สะอาด บอกลากลิ่นอับและกำจัดเชื้อราบนรถยนต์ของเรากันดีกว่า

 

 

เมื่อรถยนต์เกิดกลิ่นอับ หลายคนคงนึกถึงน้ำหอมปรับอากาศในรถเป็นอย่างแรก แต่ในความเป็นจริงแล้วนั่นเป็นเพียงการแก้ที่ปลายเหตุเท่านั้น ถ้าหากเราต้องการจะแก้ที่ต้นเหตุควรทำตามวิธีต่อไปนี้

 

จอดรถตากแดด หลายคนอาจสงสัยทำไมต้องจอดรถยนต์ตากแดด เพราะการจอดรถตากแดดจะช่วยให้ภายในห้องโดยสารรถยนต์ร้อน ทำให้ความชื้นกระจายตัว และถ้าความชื้นกระจายตัวในรถที่ปิดสนิทก็ไม่ดีกับรถแน่ๆ เราจึงควรจะเปิดกระจกรถเพื่อระบายความชื้นที่กระจายตัวอยู่บนรถให้ออกไป ดังนั้นการจอดรถยนต์ตากแดดในระยะเวลาที่เหมาะสมก็มีประโยชน์กับรถด้วยเหมือนกัน

 

 

ทำความสะอาดภายในรถยนต์ ควรหมั่นทำความสะอาดภายในรถบ่อยๆ เนื่องจากอาจมีสิ่งสกปรกสะสมจากเศษอาหารที่เรานำมารับประทานบนรถ หรือเศษดินในพรมรองพื้นรถยนต์ และเรามักใช้งานระบบแอร์ที่เป็นระบบปิดทำให้อากาศภายในรถหมุนเวียนได้ไม่เพียงพอ ส่งผลให้ภายในรถกลายเป็นแหล่งสะสมเชื้อโรคต่างๆ ดังนั้นเราควรหมั่นทำความสะอาดภายในห้องโดยสารรถยนต์ ทั้งดูดฝุ่นภายในรถยนต์ ล้างพรมรองพื้นรถยนต์ เช็คทำความสะอาดทุกส่วนภายในรถยนต์ หากทำเป็นประจำบ่อยๆ ก็จะทำให้ห้องโดยสารไม่เป็นที่สะสมของเชื้อโรคและไม่มีกลิ่นอับอีกด้วย

 

 

ล้างแอร์ ควรเข้าศูนย์บริการหรือร้านล้างแอร์รถยนต์ โดยปกติเราควรล้างแอร์อย่างน้อยปีละครั้ง หรือทุกๆ ระยะทาง 20,000 กิโลเมตร แต่นอกเหนือจากนั้นให้สังเกตความผิดปกติของแอร์ด้วย เช่น แอร์ไม่เย็น แอร์มีกลิ่นอับ พัดลมแอร์เบาผิดปกติ ถ้ามีอาการเหล่านี้ไม่ต้องรอให้ครบปีหรือครบระยะทางก็รีบนำรถยนต์ไปล้างแอร์ได้เลย

 

ถ่าน เรามักจะคุ้นเคยกับการเผาถ่านสำหรับทำอาหาร หรือปิ้งย่าง แต่ถ่านยังมีประโยชน์ในการลดกลิ่นอับ เพราะโครงสร้างของถ่านจะมีรูพรุนเล็กๆ โดยเจ้ารูนี้จะช่วยดูดซับสารเคมีที่มีกลิ่นประเภทไฮโดรคาร์บอน และยังมีคุณสมบัติดูดความชื้นในอากาศ ถ้านำถ่านไปไว้ในรถสัก 2-3 ก้อนก็จะช่วยลดกลิ่นอับในห้องโดยสารบนรถยนต์ของเราได้

 

หลังจากที่เราแก้กลิ่นอับจากรถยนต์ของเราไปหมดแล้ว หลายคนคงจะรู้สึกเหมือนรถยนต์เรายังขาดอะไรไป ดังนั้นเราจะขอแนะนำวิธีเพิ่มความหอมภายในรถยนต์ด้วยสารระเหยจากธรรมชาติสักหน่อยนะ

 

ดอกไม้หรือเปลือกผลไม้อบแห้ง การใช้สารระเหยต่างๆ จากธรรมชาติไม่ได้ช่วยแก้ต้นตอกลิ่นอับบนรถ แต่เป็นการเพิ่มความหอมกลบกลิ่นอับได้ชั่วคราว ซึ่งถ้าความหอมจากสารระเหยหมดเมื่อใด เมื่อนั้นกลิ่นอับบนรถก็จะกลับมา ดังนั้นวิธีที่ดีที่สุดจึงควรขจัดกลิ่นอับให้หมดไป แล้วใช้สารระเหยเพื่อปรับอากาศเพิ่มความหอมในห้องโดยสารให้หอมสดชื่น ทำให้ช่วงเวลาเดินทางเป็นช่วงที่มีความสุขมากขึ้น

 

 

เมื่อจบเคล็บลับการบอกลากลิ่น เราก็คงไม่อยากให้กลิ่นไม่พึงประสงค์เหล่านี้กลับมาอีกใช่ไหม มาดูวิธีป้องกัน และวิธีดูแลให้กลิ่นอับไม่ต้องมาทักทายกันอีกดีกว่า

 

หลีกเลี่ยงการทิ้งเสื้อผ้าที่เปียกไว้บนรถ การออกกำลังกายเป็นสิ่งที่ดีต่อสุขภาพ แต่อาจจะนำมาสู่กลิ่นอับและเชื้อราบนรถยนต์ ซึ่งส่งผลไม่ดีกับรถยนต์ของเราอย่างแน่นอน แถมยังส่งผลต่อสุขภาพร่างกายอีกด้วย เพราะว่าเสื้อผ้าที่เปียกจะมีความชื้นอยู่และเมื่อรถมีความร้อนยิ่งทำให้กลิ่นกระจายทั่ว ดังนั้นควรนำเสื้อผ้าไปเปลี่ยนหลังออกกำลังกายจะดีที่สุด และไม่ควรทิ้งเสื้อผ้า ผ้าเช็ดตัว ถุงเท้า รองเท้า ที่เปียกชื้นไว้บนรถ

 

หลีกเลี่ยงการทิ้งอาหารไว้บนรถ อาหารหรือเครื่องดื่มมักจะมีความชื้นอยู่ บางครั้งเราอาจเผลอทำอาหารหรือเครื่องดื่มหกจนซึมเข้าไปในเบาะรองนั่งหรือพรมรองเท้า เมื่ออาหารแห้งและน้ำระเหย ความชื้นในรถของเราจะเพิ่มสูงขึ้นทุกที่ แม้แต่ในที่ที่มองไม่เห็น เช่น ช่องแอร์

 

 

ดูแลรักษาแอร์ ถ้าหากต้องการยืดอายุการใช้งานแอร์ไปนานๆ หรือต้องการลดการเกิดกลิ่นอับในช่องแอร์ ควรหมั่นดูแลรักษาแอร์รถยนต์เป็นประจำ เช่น หากภายในรถยนต์ร้อน ให้เปิดพัดลมแอร์ทิ้งไว้ประมาณ 30 วินาทีเพื่อไล่ลมร้อนแล้วค่อยกดปุ่ม A/C (คอมเพรสเซอร์แอร์) หรือก่อนดับรถยนต์ให้กดปิดปุ่ม A/C โดยเปิดพัดลมแรงสุด ประมาณ 1-2 นาทีเป็นการไล่ความชื้นออกจากช่องแอร์ ในกรณีที่เราจะไม่ได้ใช้งานรถสักพักใหญ่ๆ เช่น การจอดรถทิ้งไว้ที่ทำงานหรือที่บ้าน ควรเปิดกระจกหน้าต่างรถยนต์ทิ้งไว้เล็กน้อยเพื่อไล่ความชื้นภายในห้องโดยสารรถยนต์

 

จากในสถานการณ์ปัจจุบันที่เราต้องเผชิญกับเชื้อโรคและฝุ่นต่างๆ มากมาย รถยนต์ถือเป็นอีกหนึ่งสิ่งสำคัญที่เราควรดูแลรักษาความสะอาดให้ดีไม่แพ้ภายในบ้าน เพราะภายในรถยนต์นั้นเป็นสถานที่ปิด ที่อากาศเดิมๆ จะหมุนเวียนอยู่ในนั้นตลอดเวลาไม่ถ่ายเท ซึ่งถ้าหากมีเชื้อโรคหรือเชื้อราใดๆ เราก็จะสูดหายใจเข้าไปและเป็นอันตรายต่อสุขภาพได้ ฉะนั้นหมั่นดูแลความสะอาดภายในรถยนต์อยู่เสมอ และอย่าลืมเคล็ดลับดีๆ ที่เราบอกไปนะ

 

 

ติดตามข่าวสาร ปรึกษาเรื่องประกันภัย

โทร. 02-793-8888

Line Official:  https://lin.ee/vZ7RQYe

Facebook : https://www.facebook.com/howdenmaxi/

www.howdenmaxi.com

SHARE

แชร์